มีคนจำนวนมากที่อยากเป็นคนค้าขาย และมีหลายๆคนก็อยากจะเป็นเจ้าของกิจการ เพราะเห็นว่าคนที่ทำการค้าขายมักจะรวยกว่าเป็นลูกจ้างรวยกว่าคนที่ไม่ได้ทำค้าขายหรือเป็นเจ้าของกิจการ
ที่จริงแล้วการที่จะเป็นคนค้าขายไม่ใช่คิดอยากจะเป็นก็ไปทำไปลงทุน แล้วก็สำเร็จเพราะการค้าขายนั้นมีความสลับซับซ้อนอยู่มาก ซึ่งต้องการการใช้ความคิดและทำความเข้าใจอย่างมากมาย ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงข้อนี้ การไปเรียนวิชาบริหารธุรกิจไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จในการค้าขาย แต่อาจจะทำให้คนที่ไปเรียนสำคัญผิดคิดว่าเรียนจบแล้วจะมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการค้าขายได้
คนที่จะค้าขายเป็นนั้น ไม่จำเป็นต้องไปเรียนบริหารธุรกิจเลยที่สำคัญก็คือต้องเป็นนักคิด นักสังเกต นักทำ รวมทั้งต้องเป็นคนที่มุ่งสำเร็จและมุ่งกำไร เพราะการค้าขายทุกชนิดรวมทั้งการผลิต ธุรกิจบริการ เป้าหมายสุดท้ายก็คือ กำไร
ฉะนั้นคนที่ไม่ใส่ใจอย่างแท้จริงเรื่องการทำกำไรมักไม่ประสบความสำเร็จ หรือถ้าสำเร็จก็ไม่มากนัก นอกจากนี้ยังต้องเป็นคนที่สนใจเรื่องคนและเรื่องตัวเลขไปพร้อมๆ กัน คนส่วนมากเวลาเก่งเรื่องคนก็มักจะอ่อนเรื่องตัวเลข คนที่ประสบความสำเร็จสูงมักจะเก่งทั้งสองอย่าง
การค้าขายต้องเกี่ยว กับคน ในที่นี้ก็คือ ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน คู่ค้า คู่แข่ง ซึ่งล้วนเป็นคนทั้งสิ้น ส่วนทางตัวเลขก็ได้แก่ 1.ยอดขาย 2.ต้นทุน 3.ค่าใช้จ่าย 4.กำไร ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำค้าขาย และจะต้องทำให้ข้อหนึ่งถึงข้อสี่นั้นสัมพันธ์กันอยู่ตลอดเวลา
การที่จะทำการค้าขายสำเร็จได้ดีนั้นก็คือ ต้องหมั่นคิดเรื่องคน เข้าใจคน เข้าใจความรู้สึกของคน เข้าใจเรื่องความต้องการของคน เข้าใจพฤติกรรมของคน สำหรับตัวเลขนั้นก็ต้องเข้าใจวิธีการจะทำการค้าให้มีกำไรว่าต้องทำอย่างไร และต้องติดตามตัวเลขต่างๆ อย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา และสามารถประเมินผลของการกระทำต่างๆ ของเราว่าได้ผลในเชิงตัวเลขมากน้อยแค่ไหนอยู่ตลอดเวลา
คนที่ไม่สนใจเรื่องตัวเลข หรือบอกตัวเองว่าไม่ชอบเรื่องตัวเลข มักจะไม่ประสบความสำเร็จในการค้าขาย แม้แต่ไม่ใช่เจ้าของกิจการเป็นแค่ผู้บริหาร ถ้าจะทำให้การงานของตนเองมีความก้าวหน้ายังต้องสนใจในด้านตัวเลขและเรื่องคนด้วย คนที่ไม่ชอบอยู่กับคน หรือคนที่ไม่ชอบตัวเลขก็ควรจะไปเป็นศิลปิน หรือเป็นนักประพันธ์ นักแสดง ฯลฯ ซึ่งก็อาจจะมีโอกาสสำเร็จในชีวิตมากกว่า
สุดท้ายคือคนค้าขายต้องเป็นคนที่มีวินัยในด้านการเงินต้องรักษาเครดิตของตนเอง อาทิเช่น ถ้ารับปากกับใครว่าจะใช้เงินคืนเขาเมื่อไหร่ก็ต้องใช้เงินให้ตรงตามเวลา และการทำงานก็ต้องรู้จักแยกกระเป๋า เช่น กระเป๋านี้ส่วนตัว กระเป๋านี้เงินของบริษัท และสุดท้ายของสุดท้ายต้องใช้เงินให้คุ้มค่า ไม่ใช่ไม่ยอมใช้เงินเลย หรือใช้อย่างไม่มีสติยั้งคิด อย่างเช่น พวกที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากซื้ออะไรก็ต้องซื้อ โดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ หรือคุณค่าของของที่ตนซื้อหามา
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ