ฝ้า กระเป็นความผิดปกติของเซลล์เมลาโนไซต์ที่สร้างเม็ดสีเมลานินมากเกิน ซึ่งสัมพันธฺ์กับปัจจัยหลัก 3 ประการคือ
-
ฮอร์โมนเพศ
-
แสงแดด
-
กรรมพันธุ์
ส่วนใหญ่เราจะพบฝ้าและกระในผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่... ทำไม? เพราะสภาวะฮอร์โมนเพศหญิงนั่นเอง ดังนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายสูงขึ้น ก็ทำให้มีโอกาสเป็นฝ้า กระได้มากกว่าปกติทั้งนั้น สภาวะที่ว่านั้นได้แก่ การตั้งครรภ์ ยาคุมกำเนิด เป็นต้น ซึ่งก็รวมไปถึงยาบางตัวที่เป็นฮอร์โมนและมีสูตรโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเพศหญิง เช่นฮอร์โมนไทรอยด์ เป็นต้น
ตอนนี้ก็มีคำถามตามมาว่า ยังงี้ทำไงถึงหายขาดได้? -- คำตอบ... ยากค่ะ คงต้องรอให้หมดประจำเดือน ซึ่งก็คงอายุราว 45 - 50 ปีเห็นจะได้ เพราะถึงตอนนั้นฮอร์โมนเพศหญิงก็คงจะหมดแล้ว
เป็นปัจจัยหลักอีกตัวหนึ่ง ดังนั้น เราจึงมักเห็นฝ้าและกระชอบขึ้นบริเวณใบหน้าส่วนที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดมากกว่าบริเวณอื่น เช่น โหนกแก้ม สันจมูก ริมฝีปาก เป็นต้น โดยรังสี UV จะไปกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ (Free Radical) ขึ้นที่ชั้นผิวหนังและอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นนี้ จะไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ให้สร้างเมลานินเพิ่มขึ้น
รังสี UVA และรังสีช่วงที่มองด้วยตาเปล่าได้ (320-700 nm.) จะสามารถกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ให้สร้างเม็ดสีเมลานินได้ดีกว่า ดังนั้น ถ้าต้องการจะปกป้องผิวจากแสงแดดให้ได้ผลดี ควรเน้นครีมกันแดดที่สามารถปกป้องรังสี UVA เป็นหลัก หรือไม่ก็เป็นครีมกันแดดที่สามารถปกป้องได้ทุกคลื่นรังสี (Broad Spectrum UV Protection)
กรรมพันธุ์ จะมีความสัมพันธ์กับกระเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ถ้าคนในครอบครัวเป็นกัน โอกาสที่คนนั้นจะเป็นกระก็มากกว่าคนทั่วไป
เชื้อชาติ ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมที่ใกล้ชิดกัน เราจึงเห็นว่าบางเชื้อชาติ ผู้หญิงจะเป็นกระมาก เช่น ชาวยุโรป เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นปัจจัยหลัก ซึ่งเมื่อคุณเข้าใจดีและถูกต้องว่า ฝ้าและกระเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ยากที่จะรักษาให้หายขาดได้ -- แต่คุณก็สามารถจะรักษาให้ฝ้าและกระของคุณให้จางลงได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของการรักษาฝ้าอย่างสม่ำเสมอค่ะ